“ โคก หนอง นา โมเดล ”  เกษตรอินทรีย์  วิถีตำรวจน้ำ
HOME

  

สถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส 
โคโรนา ๒๐๑๙ (
COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการสาธารณสุข ด้านสังคม และ
ด้านอื่น ๆ จึงทำให้เกิดวิกฤตทางสังคมอย่างหนักไปทั่วทั้งโลก จากรายงานของ
McKinsey & Company (March
 ๒๖, ๒๐๒๐) จะส่งผลให้โลกมีผลผลิตลดลงถึงร้อยละ ๓๐ นั่นหมายถึงโลกอาจจะขาดอาหารและการเจริญเติบโต
ของเศรษฐกิจจะลดลงร้อยละ ๑.๕ ของ
World GDP
นอกจากนี้ยังมีวิกฤต ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้ง
เรื่องภัยแล้งและน้ำท่วมที่คาดว่าจะมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและโครงสร้าง 
พื้นฐานที่จำเป็นทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดความเสียหาย เพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
และปัญหาความยากจนตลอดจนระบบการผลิตทางการเกษตรที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับความมั่นคงด้านอาหารและ
น้ำ นอกจากนี้ระบบนิเวศต่าง ๆ มีแนวโน้มเสื่อมโทรมลง และสูญเสียความสามารถในการรองรับความต้องการมนุษย์
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางออกของประเทศไทยในการรอดพ้นวิกฤตและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้ถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ และนโยบายรัฐบาลที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด และพัฒนาประเทศตาม   หลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร กระทรวง
มหาดไทยมอบหมายให้กรมพัฒนาชุมชน น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักทฤษฎีใหม่มาเป็นหลักใน
การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง
โดยการพัฒนาคนให้พึ่ง
ตนเอง มีความเป็นเจ้าของและบริหารจัดการโดยชุมชนพัฒนาหมู่บ้านหรือชุมชนให้มีวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงและเป็นสังคม
อยู่เย็น เป็น
สุข
พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร  ได้พระราชทานแนวทางการแก้ไขปัญหาไว้
 ตั้งแต่ปี ๒๕๔๑ ความบางตอนว่า
…เศรษฐกิจพอเพียงและ   ทฤษฎีใหม่ สองอย่างนี้จะทำความเจริญให้แก่
ประเทศ
…”
เป็นแนวทางเดียวที่ทำให้ประเทศชาติรอดพ้นจาก
วิกฤตและยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (๒๕๖๑-๒๕๘๐)
ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ใน    การพัฒนาประเทศ ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ การ
พัฒนาคน โดยเรียนรู้จากตัวอย่างที่สอดคล้องกับ ภูมิสังคมด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองจนเกิดทักษะและปรับ
เปลี่ยนพฤติกรรมผ่านโครงการเพื่อพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่
 “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้แฟลตตำรวจน้ำฝั่งบางปลากดเป็นชุมชนที่ยั่งยืนตาม
แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่
เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักทฤษฎีใหม่มาใช้ในวิถีชีวิตและการพัฒนาหมู่
บ้านหรือชุมชน ในการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์
สู่
โคก หนอง นา โมเดล และได้ขยายผลความสำเร็จ เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่ง
โครงการ
โคก นอง นา โมเดล เป็นการน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รัชกาลที่ ๙ ด้านการทำ
เกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการที่ดิน โดยมีการผสมผสานกับภูมิปัญญา
พื้นบ้านให้สอดคล้องกัน โคก หนอง นา โมเดล คือ การจัดการพื้นที่ซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นผสมผสาน
เกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้น ๆ

โคก หนอง นา โมเดล เป็นการที่ให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเอง โดยมีมนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้สำเร็จเร็วขึ้น
อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ข้าราชตำรวจน้ำมีความรู้เกี่ยวกับการบริการจัดการที่ดินของตนเองและสอดคล้องกับพื้นที่ที่
ตนเองมีอยู่ จึงจัดทำโครงการ
โคก หนอง นา โมเดล เกษตรอินทรีย์ วิถีตำรวจน้ำ     ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อส่งเสริมความรู้ให้กับข้าราชการตำรวจน้ำสามารถนำมาประยุกต์ในการบริหารจัดการที่ดินในบริเวณแฟลต
ตำรวจ
น้ำฝังบางปลากดให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเหมาะสมในการทำการเกษตรและอยู่อย่างพอเพียงได้